DJI เปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ ‘Mini 3 Pro’ ที่ยังคงความกะทัดรัดไว้เช่มเดิม
กับน้ำหนักตัวโดรนเพียง 249 กรัมเท่านั้น! ถ่าย 4K 60P ได้แล้ว
มาพร้อมเซนเซอร์รับภาพขนาดใหญ่กว่าเดิม เพิ่มเซนเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวาง
และอีกหลาย ๆ สิ่งที่ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า!







เริ่มกันด้วยสเปกตัวกล้อง Mini 3 Pro มาพร้อมกับเซนเซอร์ CMOS ขนาด 1/1.3 นิ้ว
ความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล (2.4μm ต่อพิกเซล) ซึ่งมาพร้อมกับระบบ
dual native ISO และเลนส์ระยะ 24mm F1.7 (ระยะเทียบเท่ากับกล้องฟูลเฟรม)
ซึ่งสำหรับเซนเซอร์ และรูรับแสงถือว่าอัปเกรดจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Mini 2
ไปอีกขั้นเลยก็ว่าได้ครับ (Mini 2 ใช้เซนเซอร์ 1/2.3 นิ้ว 12 ล้านพิกเซล เลนส์ 24mm F2.8)

นอกจากเซนเซอร์ที่สามารถถ่ายภาพนิ่งได้ที่ 48 ล้านพิกเซลแล้วเนี้ย
รุ่นนี้ยังอัปเกรดให้สามารถถ่ายวิดีโอ 4K 60P ได้แล้วครับ พร้อมกับ 4K HDR
ที่ 30P รองรับ digital zoom 2x ในโหมด 4K, 3x ในโหมด 2.7K และ 4x
ในโหมด Full HD นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มโพรไฟล์สี ‘D-Cinelike’ มาให้อีกด้วย




รุ่นนี้กิมบอลกล้องยังปรับมุมได้ถึง 90º ซึ่งหมายความว่ารองรับการถ่ายวิดีโอแบบแนวตั้ง
เอาไปลง social media ต่าง ๆ ได้เลย ไม่ต้องครอปภาพอีกแล้ว! ตัว Mini 3 Pro
สามารถบินได้นานถึง 34 นาที จากมาตรฐานโดรนหนัก 249 กรัม
แต่ก็สามารถอัปเกรดเพิ่มเป็น 47 นาที ได้ด้วยการเสียเงินซื้อ
Intelligent Flight Battery Plus battery ได้เช่นกันครับ (แต่ก็แปลตัวโดรนจะหนักเกิน 250 กรัม และชาร์จนานขึ้นด้วยนะ)




ในรุ่น Mini 3 Pro ยังเป็นครั้งแรกของซีรีส์ Mini ที่ใส่ระบบตรวจจับสิ่งกีดขวางแบบ
‘Tri-Directional Obstacle Sensing’ มาให้ โดยมีเซนเซอร์อยู่ทั้งด้านหน้า,
ด้านหลัง และท้ายตัวโดรนเลยครับ พร้อมกับระบบ Advanced Pilot Assistance
Systems (APAS) 4.0 รุ่นใหม่ และ FocusTrack ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในซีรีส์นี้
โดยที่ระบบส่งสัญญาณจะใช้ OcuSync 3.0 (O3) ซึ่งสามารถส่งสัญญาณภาพ
ที่ความละเอียด 1080p ได้ไกลถึง 12 กิโลเมตรเลยทีเดียว